[CR] ลองทริปยาว....ลาวเหนือ

#เกริ่น
1.บันทึกการเดินทางทริปนี้เป็นทริปแรกของการขี่มอเตอร์ไซค์ข้ามแดนไปยังลาวโดยผ่านเส้นทางสุดฮิตเวียงจันทร์ วังเวียง หลวงพระบาง เป็นการฉลองปีใหม่กับประสบการณ์ใหม่ๆ ในที่ใหม่ๆ จุดประสงค์ของกระทู้คือเพื่อแชร์ประสบการณ์และส่งบทความเข้าประกวดโครงการ Best Writder ข้อมูลหลายๆอย่างในกระทู้ก็ไม่ได้อัพเดทแล้ว ถือซะว่าเอาประสบการณ์มาแลกเปลี่ยนกัน ตามประสาคนชอบขี่เที่ยวละกัน แม้จะผ่านไปหลายปี แต่ดีใจที่ได้ทำและรู้สึกสุขใจทุกครั้งที่ได้ย้อนดูอัลบัมและเรื่องราว
2.มีการแก้ในหลายๆเมนท์ที่เป็นเนื้อเรื่อง เพราะมาตรวจทานซ้ำแล้วพบคำที่พิมพ์ผิด หรือเพิ่มเติมเนื้อหาบางช่วงเพื่อให้กระทู้มีความสมบูรณ์ขึ้น

1.เรือเที่ยวสุดท้าย
ผมหายใจได้ทั่วท้องหน่อยเมื่อรู้ว่ารถมอเตอร์ไซค์ที่จะเป็นเพื่อนยากตลอดหลายวันข้างหน้านับจากนี้ ได้ลงมาอยู่ในเรืออย่างปลอดภัย การได้นั่งอยู่ในเรือที่แทบจะว่างเปล่า มีเพียงแค่คนคุมท้ายและชาวบ้านอีก 4 คน เราไม่ได้พูดอะไรกันมาก แค่ทักทายกัน พวกเค้าดูเหมือนจะโล่งใจที่ข้ามเรือได้ทัน เพราะมันน่าจะเป็นเรือรอบสุดท้ายของวันแล้ว

ผมนั่งดูพระอาทิตย์เกือบจะลับของฟ้าริมแม่น้ำโขง ค่อยๆเห็นอาคารตรวจคนเข้าเมืองฝั่งไทยเล็กลงเรื่อยๆ ในขณะที่แผ่นดินฝั่งลาวใกล้เข้ามาทุกที  ผมนึกย้อนไปถึงจุดเริ่มต้น....ผมไม่เสียดายเลยที่ตัดสินใจแบบนี้ แม้ว่าบางขณะมันอาจจะดูเป็นการทำร้ายจิตใจคนในครอบครัวอยู่บ้างโดยเฉพาะอย่างยิ่งพ่อกับแม่

ผมเติบโตมาในครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวย แต่ก็โชคดีที่ถือว่าไม่ได้ลำบากอะไร ออกจะดูค่อนข้างคุณหนูสำหรับเพื่อนๆในวัยเดียวกันซะด้วยซ้ำ ดังนั้นเมื่อพูดถึงการขี่มอเตอร์ไซค์ในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพ มันเป็นอะไรที่ทุกคนในบ้านค้านหัวชนฝาเลยทีเดียว เป็นเวลาหลายเดือนที่ผมต้องต่อสู้กับความรู้สึกลึกๆในใจที่อยากมีประสบการณ์ขี่มอเตอร์ไซค์อย่างคนอื่นๆ การที่เป็นพนักงานประจำกินเงินเดือนต้องเจอกับสภาพการจราจรที่ย่ำแย่ทุกเช้าทุกเย็น ความเบื่อสะสมเพิ่มพูนมากขึ้นจนในที่สุด ก็ถึงวันที่ผมตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะออกรถมอเตอร์ไซค์ ผมแอบไปซื้อกับศูนย์คาวาแถวย่านฝั่งธนโดยไม่มีใครที่บ้านรู้เรื่อง และหลังจากนั้นอีกไม่นานก็ถึงวันที่ผมแอบไปรับรถและขี่กลับมาที่บ้าน โดยที่ผมยังสามารถเก็บมันเป็นความลับอยู่ได้

สิ่งที่ผมเจอในวันนั้นผมคงไม่มีวันลืม...การเริ่มมีประสบการณ์ขี่มอเตอร์ไซค์ของผมเริ่มต้นด้วยการกลับมาบ้าน พร้อมกับสีหน้าประหลาดใจของพ่อกับแม่ พ่อซึ่งเป็นผู้ชายด้วยกันและผมคิดว่าน่าจะคุยปรับความเข้าใจได้ง่ายกว่ากลับเป็นคนที่ มองผมออกมาจากประตูบ้านมาที่ประตูรั้วและเดินกลับเข้าไปในบ้าน และไม่ได้พูดกับผมไปสามวันเต็มๆ ในขณะที่แม่กลับเข้าใจและปรับความเข้าใจกันได้ง่ายกว่า

ผมทำตามที่หลายๆคนในห้องรัชดาทำคือค่อยๆสร้างความมั่นใจให้เค้าด้วยการทำทุกอย่างให้ถูกต้อง ไปเรียนขับขี่ปลอดภัย ไปทำใบขับขี่ ซื้ออุปกรณ์ เสื้อการ์ด ขับขี่อย่างไม่ประมาท ทุกวันที่ผ่านไปสถานการณ์ค่อยๆดีขึ้น และในที่สุดมันก็กลับมาเป็นปกติได้

ความรู้สึกของทุกคนในบ้านที่ผมทำให้เสียไป ผมไม่สามารถเอากลับมาหรือเปลี่ยนแปลงได้ แต่สิ่งที่ได้มาหลังจากนั้นเป็นอะไรที่ดีมากๆ ที่บ้านมีมุมมองหลายๆอย่างเปลี่ยนไปเกี่ยวกับคนขี่มอเตอร์ไซค์ ผมได้เพื่อน ได้ความรู้ ได้ประสบการณ์การท่องเที่ยวในอีกรูปแบบนึง ผมได้ไปหลายๆที่ในไทยกับเพื่อนๆอีกหลายกลุ่ม

เวลาผ่านไปจนถึงจุดที่ผมคิดว่าอยากได้ประสบการณ์ในต่างประเทศบ้าง ผมเลือกลาวเป็นประเทศแรกด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง เวียงจันทร์ วังเวียง หลวงพระบาง เป็นเส้นทางที่ผมเคยมากับเพื่อนด้วยรถยนต์แล้ว พอจะรู้เส้นทาง แหล่งท่องเที่ยวอยู่บ้าง ราคาไม่แพงเมื่อเทียบค่าครองชีพกับไทย ภาษาใกล้เคียงกันพอคุยกันรู้เรื่อง ผู้คนอัธยาศัยดี ผู้สาวน่ารัก ยิ้มยิ้ม อาหารอร่อย......  

เสียงกัปตันบอกให้เตรียมตัวปลุกให้ตื่นจากภวังค์ ตื่นเต้นมากๆ...ทริปลาวของผมกำลังจะเริ่มแล้ว แต่ที่ตื่นเต้นไปกว่านั้นมันเพียงแค่เสี้ยววินาที ทริปผมอาจจะไม่ได้เริ่มเลยก็ได้ถ้าชาวบ้านทำรถผมตกจากแผ่นไม้กระดานกว้างเพียงประมาณแค่สองคืบที่พาดจากกาบเรือกับขั้นบันไดปูน  ผมตกอยู่ในสถานการณ์นี้ก็เพราะว่า....ให้ผมเริ่มเล่าทริปของผมจากตรงนี้ละกัน

หลังจากเราขี่ออกจากกรุงเทพมาตั้งแต่ประมาณ 2 ทุ่ม วันที่ 28 ธ.ค. 2012 วันสุดท้ายของการทำงานในปี วันที่หลายคนออกเดินทาง การจราจรช่วงสระบุรีติดขัดมาก แต่การที่มีรถเล็กทำให้เราสามารถซอกแซกไปได้เรื่อยๆ และเมื่อเวลาผ่านไปดึกขึ้นๆ สภาพการจราจรก็คล่องตัวขึ้นแต่อุณภูมิลดลงเรื่อยๆจนถึงจุดที่เรารู้สึกว่าการขี่ต่อไปมันไม่สนุกอีกแล้ว เราเหนื่อย เราหนาว เราเพลีย และคิดว่ามันน่าจะปลอดภัยกว่าถ้าจะพักนอน เราหาศาลาข้างทางน่าจะเป็นทางช่วงระหว่างร้อยเอ็ดกับนครพนม เวลาประมาณตีสอง


ความหนาวปลุกเราให้ตื่นตั้งแต่เช้ามืด แม้จะเป็นการได้นอนเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่มันทำให้เราทุกคนรู้สึกสดชื่นขึ้นมากทีเดียว เราออกเดินทางกันต่อ จุดหมายปลายทางของวันนี้คือมุกดาหาร  เรามาถึงที่พักประมาณบ่ายๆ และสิ่งที่ทุกคนทำคือนอนสลบยาว เราตื่นกันประมาณสี่โมงก่อนจะออกไปหาอะไรกินริมแม่น้ำโขง...ปลาน้ำจืดเป็นอะไรที่ไม่พลาดอยู่แล้ว...อร่อยเหาะเลย หลังจากกินเสร็จก็ได้เวลาขี่รถดูไฟที่สะพาน นั่งคุยเรื่อยเปื่อย  และกลับมานั่งหาอะไรดื่มกันต่อแถวใกล้ๆที่พักซึ่งก็อยู่ใกล้แม่น้ำโขง และเมื่อได้เวลาก็แยกย้ายกันเข้านอน

30 ธ.ค. 2012
วันนี้จุดหมายปลายทางคือนครพนม ที่ซึ่งเพื่อนๆจะจอดรถไว้ฝั่งไทย และผมจะเอารถข้ามไปและเราจะใช้เวลาด้วยกันอีก 1 คืนก่อนที่ผมจะมุ่งหน้าเวียงจันทร์และแยกกันกับเพื่อน หลังจากกินโจ๊กในเมืองแล้วเราก็มุ่งหน้าไปยังนครพนมและตรงไปจุดข้ามเรือที่แม่น้ำเลย ผมถามคนเรือว่าจะเอารถข้ามไปด้วยได้มั๊ย แต่ชาวบ้านบอกว่าไม่ได้

แล้วผมจะปล่อยให้ทริปผมจบตั้งแต่ยังไม่เริ่มเหรอ...ไม่ล่ะ ขอไปเสี่ยงเอาด่านหน้าละกัน เมื่อแยกจากเพื่อนๆ ผมขี่ย้อนกลับมาที่สะพานมิตรภาพจังหวัดมุกดาหารอีกครั้ง แต่ไม่ว่าจะเจรจายังไงเจ้าหน้าที่ก็ไม่ให้เอารถข้ามสะพานไป แม้เอกสารที่เตรียมไปจะถูกต้องครบถ้วนก็ตาม เจ้าหน้าที่บอกว่าทางที่จะข้ามไปได้คือต้องมาเป็นหมู่คณะและมีหนังสือมาล่วงหน้าด้วย ซึ่งทางนี้ตัดไปได้เลยไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว ทางที่สองที่จะเป็นไปได้คือเอาขึ้นกระบะข้ามไป ซึ่งผมต้องจ้างกระบะที่แถวหน้าด่าน เมื่อถามราคาแล้วมันแพงเกินไป ถ้าจำไม่ผิดมันประมาณ 3,000 บาท ที่น่าหงุดหงิดสุดก็คือข้อมูลที่บอกว่าขี่ข้ามไปได้นั้นผมก็ได้มาจากในเว็บของด่านมุกดาหารนั่นแหล่ะ แต่เวลาตอนนี้มีค่ามากกว่าจะมานั่งอารมณ์เสียในสิ่งที่ทำอะไรไม่ได้

ขี่เลาะโขงกันต่อไป แม้ใจจะว้าวุ่น ความกังวลเพิ่มขึ้น แต่อดรู้สึกไม่ได้ว่าทางสาย 212 เลียบแม่น้ำโขงนี้มันสวยจริงๆ ถ้าไม่ได้กำลังรีบไปให้ถึงสะพานที่นครพนม ผมอยากแวะถ่ายหลายจุดเลย โดยไม่รู้ตัวทุกๆกิโลเมตรที่ผ่านไป อารมณ์ผมค่อยๆผ่อนคลายจนในที่สุดหายหงุดหงิด แต่ความกังวลยังไม่หายไป เพราะทุกนาทีที่ผ่านไปมีผลอย่างมากกับแผนการเดินทาง

เมื่อมาถึงสะพานที่นครพนม ผลการเจรจาก็เหมือนเดิม เจ้าหน้าที่ไม่ให้ข้ามไป แต่ได้ให้คำแนะนำว่าให้ลองขี่ไปที่บึงกาฬสิ ที่นั่นมีแพยนต์อยู่น่าจะข้ามได้ ผมขอบคุณเจ้าหน้าที่และรีบออกเดินทางต่อ อยากจะให้มีสักอย่างน้อย 300 cc ใต้หว่างขาเวลานี้ เพราะตอนนี้มันบ่ายมากแล้ว และไม่มีข้อมูลเลยว่าแพยนต์จะวิ่งถึงกี่โมง ถ้าทำความเร็วได้อีกหน่อยจะดีเลย

ในที่สุดเมื่อมาถึงแพตอน 5 โมงเย็นและผมก็ได้คำตอบ แต่มันไม่ใช่คำตอบที่ผมพอใจเลย แพมีและสามารถเอารถข้ามไปได้ แต่ตอนนี้มันเลยเวลาแพรอบสุดท้ายของวันแล้ว...คงไม่มีทางเลือกนอกจากเสียเวลา 1 วันค้างที่นี่คืนนี้ แล้วค่อยข้ามแพพรุ่งนี้เช้า แม้ไม่ใช่ทางที่ต้องการแต่คงเป็นทางที่ดีที่สุดสำหรับตอนนี้

แล้วโดยไม่ได้คาดฝัน เจ้าหน้าที่คงเห็นความผิดหวังในแววตาของผม พี่เค้าใจดีมากๆแนะนำว่าจะลองไปที่ด่านที่ใช้สำหรับขนสินค้ามั๊ยมันอยู่ไม่ไกล ไปรถเค้าก็ได้ เค้าจะพาไปส่งและทำเอกสารให้ ตอนนี้เรื่องเอกสารเลยไม่ใช่ปัญหาแล้ว ปัญหาใหม่ที่ผมต้องเจอก็คือต้องหาคนช่วยยกรถไปลงเรือ แต่ปัญหานี้ก็ได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว เพราะชาวบ้านแถวนั้นยินดีที่จะช่วยเพื่อแลกกับค่าตอบแทนเล็กๆน้อยๆอยู่แล้ว

ตกลงกันก่อนว่าใครจะยกมุมไหน

อย่าทำรถผมตกนะคร้าบ

แค่ขั้นตอนการยกรถลงสะพานก็หวาดเสียวพออยู่แล้ว เมื่อลงไปถึงบันไดขั้นล่างสุดปรากฏว่าเนื่องจากเรือส่วนใหญ่ก็จอดเข้าท่ากันแล้ว ดังนั้นชาวบ้านเลยต้องช่วยกันยกรถต่อค่อยๆข้ามหัวเรือไปทีละลำจนไปถึงลำที่อยู่นอกสุด....โอยหัวใจจะวาย และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำไมถึงหายใจได้ทั่วท้องหน่อยเมื่อรถลงมาจอดได้สนิทอยู่กลางลำเรือ

หลังจากลุ้นอีกหนึ่งเฮือกใหญ่ตอนที่ชาวบ้านแถวท่าเรือซึ่งเป็นอีกทีมนึง ไม่ใช่ทีมที่ยกลงตอนอยู่ฝั่งไทย และวิธีที่เอารถขึ้นจากเรือไม่ได้เสียวน้อยไปกว่าขาลงเลย ไม้กระดานแผ่นแคบๆกว้างประมาณ 2 คืบ ถ้าผมกะถูกในแสงสลัวๆนะ ลุ้นกันทุกลมหายใจกับทุกรอบที่ล้อหมุนไปบนแผ่นไม้กระดานแคบๆนั้น...แคร็ก...เสียงแสตนด์ข้างกระทบพื้นคอนกรีตท่าเรือพร้อมๆกับเสียงถอนลมหายใจเฮือกใหญ่ของผม หลังจากจ่ายค่าแรงให้กับบรรดาคนเรือเรียบร้อย ก็ได้เวลาออกเดินทางต่อล่ะ ผมรู้ว่าวันนี้คงไปไหนไม่ได้ไกลแล้ว แม้จะไม่ถึงเวียงจันทร์อย่างที่ตั้งใจไว้ แต่ก็ไม่คิดว่าระยะทางที่จะไปต่อได้สำหรับวันนี้มันจะใกล้แค่จากท่าเรือมาถึงประตูด่าน นี่มันจะมีเรื่องผิดคาดได้ตลอดเลยเหรอ....
ชื่อสินค้า:   เวียงจันทร์ - วังเวียง - หลวงพระบาง - สปป ลาว -
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง โดยได้รับส่วนลดหรือสิทธิพิเศษจากเจ้าของสินค้าเพื่อแลกกับการรีวิว
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่